The long wearing nature of this product is one of it’s best qualities. It lasts easily throughout the day (or night) without top up, and without flaking. It only begins to fade and show my skin’s redness after a commute, 5 hour teaching day, and commute home- so roughly 7 hours in total. Even then, it’s not a total mess, and only faded in areas I frequently touch, such as my chin. Because it doesn’t cake and flake, re-application is easy and gives the same finish as the initial application. My skin usually doesn’t work too well with ‘long wear’ products, as they tend to clash with my more dry patches. Surprisingly this seems to keep my face moisturised enough throughout the day to avoid the flaking, whilst still maintaining the coverage and finish. I have the lightest shade- Fair Light. It’s available in the four shades below. The undertones in Fair Light are neutral, with only a hint of yellow. Photo from jsmbeauty.com

Additionally, products that may contain ingredients that have shown to feed Malassezia may not neccessarily exacerbate the condition due to concentration of ingredient used in the product, this information is simply not available on the products.Jung Saem Mool ก็คือการมีผิวแบบ Glass Skin หรือผิวที่ดูโกลว์ใสราวกับกระจกนั่นเองค่ะ แต่การที่จะมีผิวแบบ Glass Skin ได้นั้นไม่ได้มาจากการแต่งหน้าอย่างเดียวเท่านั้นนะคะแต่มันยังรวมไปถึงขั้นตอนการทำความสะอาด การดูแลผิวหน้า และการเลือกใช้สกินแคร์ด้วยเช่นกัน ดังนั้นแล้วนอกจากผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Jung Saem Mool จะมีกลุ่มของเครื่องสำอางแล้วนั้นมันก็ยังจะครอบคลุมไปถึงสกินแคร์ดูแลผิวหน้าเลยทีเดียวค่ะ นอกจากนี้ทางแบรนด์ก็ยังมีแปรงรวมไปถึงอุปกรณ์แต่งหน้าอื่น ๆ ด้วยเช่นกันค่ะ Jung Saem Mool คุชชั่นตัวดังที่เหล่าบิวตี้บล็อกเกอร์ชอบใช้ ผิวสวยปังทุกครั้งที่ใช้ Masterclass Radiant Cushion ซึ่งก็จะเป็นคุชชั่นสำหรับมืออาชีพที่เน้นเรื่องการปกปิดที่เรียบเนียน ทำให้ผิวสวยแลดูสุขภาพดีแบบมืออาชีพตลอดวัน ส่วนคุชชั่นตัวดังอีกหนึ่งตัวก็คือ Essential Skin Nuder Cushion ซึ่งจะเป็นคุชชั่นที่เน้นในเรื่องของงานผิวบางเบาในแบบฉบับของสาวเกาหลีโดยเฉพาะ และตัว Cushion-cealer ตัวนี้ก็จะเน้นในเรื่องของการปกปิดเป็นหลักค่ะ

Soft Focus Effect ซึ่งจะช่วยเบลอรูขุมขน ริ้วรอย และความไม่สมบูรณ์แบบของผิวหน้าจึงช่วยให้กระจายแสงได้ดี หน้าคุณจึงดูฉ่ำวาว มีมิติ และดูสดใสแบบสาวแดนกิมจิอย่างไรอย่างนั้นเลยละค่ะ ข้อดี Essential Mool มีสกินแคร์อยู่หลากหลายตัวด้วยกันค่ะ สกินแคร์ในกลุ่มนี้จะเป็นตัวหลักและมีบทบาทสำคัญในการทำให้ผิวสวยแบบ Glass Skin ทำหน้าที่คืนความชุ่มชื้นให้กับผิวผ่านส่วนผสมและนวัตกรรมของแบรนด์โดยเฉพาะซึ่งก็มีทั้งสกินแคร์สำหรับทำความสะอาดผิวหน้า ครีมบำรุง มาส์ก และอื่น ๆ I’m impressed, as expected. It definitely held true to it’s claims. I think the most impressive aspect for me is the way it creates the higher coverage, semi-matte finish, but without the result of caking/breaking/flaking as time goes on. This is unusual for me and my skin type. This foundation seems to keep my face moisturised with a natural finish, whilst also maintaining the higher coverage and lasting well. It’s a unique blend of qualities for a base makeup. T he lasting power is notable, and it’ll be interesting to see how it works out as the weather becomes more humid here in Korea.

Reset your password

Jung Saem Mool แนะนำก็ถึงบางอ้อทันที คือมันเลิศมากค่ะทุกคน ความเลิศแรกคือในตลับมีคอลซีลเลอร์มาให้ด้วยจ้าคุณสาว ๆ อันนี้คือดีงามค่ะเพราะไม่ต้องหาซื้อเพิ่มแถมยังพกพาได้สะดวกอีกต่างหาก คอลซีลเลอร์เนื้อครีมให้การปกปิดดีและไม่ค่อยหนักหน้าเท่าไหร่ค่ะ เกลี่ยง่ายและเค้าก็มีแปรงมาให้ด้วยนะคะ ส่วนรองพื้นก็จะเป็นแบบกดเนื้อ เนื้อเจลไม่ข้นไม่เหลวปกปิดรอยสิวและรูขุมขนถือว่าโอเคดูเนียนดีเลยค่ะ ส่วนพัฟก็มีมาให้แล้วเบ็ดเสร็จในตลับเดียว พัฟรูปทรงสี่เหลี่ยมนุ่ม ใช้งานง่ายและไม่กินเนื้อรองพื้นอีกด้วยนะ อันนี้เวอร์มากแม่!! Jung Saem Mool ก็เลยออกผลิตภัณฑ์มาเพื่อแต่งเติมดวงตาโดยเฉพาะเช่นกันค่ะซึ่งในกลุ่มนี้ก็ได้แก่ อายแชโดว์ซึ่งก็จะมีทั้งสีนู้ดเนื้อแมตต์ เนื้อกลิตเตอร์ รวมไปถึงแบบตลับ 2 สีไปจนถึงพาเลตหลากสีเลยทีเดียวค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมีอายไลเนอร์, มาสคาร่า, ดินสอเขียนคิ้ว รวมถึงเจลสำหรับปัดคิ้วเลยด้วยนะคะ 5. กลุ่มเครื่องสำอางสำหรับริมฝีปาก